ทำไมคนทำดีถึงมีคนเกลียด.. ปกติคนทั่วไป เมื่อเราทำดีเขาจะชอบ จะพอใจ และจะรักเรา แต่พอทำดีแล้วเขาเกลียด เราก็รับไม่ได้เหมือนกัน บางคนเลยรำพึงรำพันว่า เฮ้อ! ทำดีไม่ได้ดี หรือทำคุณบูชาโทษบ้าง ทำบุญคุณกับใครไม่ขึ้นบ้าง คิดไปสารพัด
อยากให้เรามองกันอย่างนี้ว่า เวลาเราจะทำ อะไรดี ๆ สักอย่าง เราก็คาดหวังว่าจะได้รับผลลัพธ์ ที่ดี แต่บางครั้งหลาย ๆ เรื่องที่เราเคยทำในอดีตคนอื่นอาจไม่ค่อยชอบใจ พอปุบปับเราทำสี่งดี ๆ ขึ้นมา เขาอาจมองว่า เอ๊ะ! จรีงหรือเปล่า เพราะฉะนั้น ต้องใจเย็น ๆ ขอให้มั่นใจว่า ถ้าเราทำได้ถูกดี ถึงดี และพอดี เราจะต้องได้ดีแน่ ๆ ซึ่งเรื่องนี้พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงให้หลักคิดไว้ว่า ถ้าเราทำดีแล้ว ให้ยึดหลักสังคหวัตถุ 4 เอาไว้ คือ ทาน ปียวาจา อัตถจริยา และสมานัตตตา ถ้าเรามีครบถ้วน 4 ประการนี้แล้ว รับรองว่ามีแต่คนรักแน่นอน มาดูว่าแต่ละข้อเป็นอย่างไรบ้าง
1. ทาน คือ การให้ การแบ่งปัน การมีน้ำใจ เรื่องนี้สำหรับคนที่หมั่นทำดีด้วยการให้ทาน การแบ่งปัน น่าจะสอบผ่าน ถ้ายังทำเรื่องนี้ไม่ดี ก็ต้องรู้จักให้ รู้จักแบ่งปัน แต่ถ้าเราอุตส่าห์ช่วยเขาแล้ว แบ่งปันให้เขาแล้ว เขายังเกลียดเราอยู่อีก เรื่องนี้ก็น่าจะสัมพันธ์กับความชอบความไม่ชอบด้วย ต้องไป สำรวจดูข้อต่อ ๆ ไปว่า เราบกพร่องข้อไหนหรือเปล่า
2. ปิยวาจา มาดูว่าเราขาดปิยวาจาหรือไม่ คำว่า "ปิยวาจา" ไม่ได้แปลว่า พูดเพราะ ๆ อย่าง เดียว ความหมายที่เป็นสาระจริง ๆ คือ การที่รู้จักสื่อสารกับคนอื่นให้เขาเข้าใจว่า สิ่งที่เราทำมีประโยชน์อย่างไร ดีกับเขาอย่างไร เราตั้งใจดีอย่างไร สื่อสารให้เขาเข้าใจ ไม่อย่างนั้นเขาอาจแปลความหมายผิด ไปคิดเดาต่าง ๆ นานา เรื่องดีกลายเป็นร้าย เพราะเขาไม่เข้าใจสิ่งที่เราทำ จึงเป็นหน้าที่ของเราที่ต้องรู้จักมีปิยวาจา คือ สื่อสารให้เขาเข้าใจจริง ๆ ว่า เราทำเพื่อมุ่งหวังสิ่งใด จะเกิดประโยชน์ต่อเขาและส่วนรวมอย่างไรบ้าง
อีกประการหนึ่งของปิยวาจา คือ จะต้องรู้จักการให้เกียรติ คนเราแม้จะมีใครมาช่วยตัวเองเท่าไรก็ตาม แต่ถ้าให้ความช่วยเหลือพร้อมกับแสดงท่าทางเป็นผู้เหนือกว่า ก็มักจะไม่ค่อยชอบ คำว่า "มนุษย์" อีกนัยหนึ่งแปลว่า ผู้มีใจสูง คือ คน ทุกคนต้องการความรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเอง ถ้าเรา ไปช่วยใครแล้วให้เกียรติเขา ไม่กดเขา ทำให้เขาตระหนักว่า เรามาช่วยเพื่อจะยกให้เขาสูงขึ้น เขาจะซาบซึ้งมาก รู้สึกรัก และนึกถึงพระคุณของเรา แต่ในทางกลับกัน ถ้าเรามาช่วยเขาจริง ๆ แต่มาพร้อมกับความรู้สึกว่า เราคือผู้มาช่วยเขา ฉะนั้นเขาจะต้องสำนึกบุญคุณของเรา ซึ่งเป็นการไปกดเขาให้ต่ำลง คนถูกช่วยจะรู้สึกไม่ค่อยมีความสุข บางทีเผลอ ๆ พาลหมั่นไส้เราไปเลย ตรงนี้ทำให้คนช่วยรู้สึกว่าทำคุณบูชาโทษ คิดว่าเราช่วยเขาแล้ว ทำไมเขามาเกลียดเรา
เรื่องนี้อย่าว่าแต่ระดับบุคคลเลย ในระดับประเทศก็เหมือนกัน เช่น ในยุคหนึ่งสหรัฐอเมริกาได้ไปช่วยประเทศต่าง ๆ ไว้ทั่วโลก เรื่องที่ทำไม่ดีก็คงมีอยู่บ้าง เพราะไม่มีใครดีพร้อม แต่ที่ไปช่วยด้วย ความจริงใจก็มีไม่น้อย ยุโรปฟื้นได้ก็ด้วยแผนการมาร์แชล (Marshall Plan) ญี่ปุ่นฟื้นได้ก็เพราะอาศัยอเมริกาเป็นฐานรองรับสินค้าส่งออก แต่ว่าทำไมอเมริกายังมีคนไม่ชอบเยอะ ก็ต้องดูว่า เขาอาจจะช่วยไปพร้อมกับอาการที่ประเทศต่าง ๆ รับไม่ได้ แต่ถ้าให้ความช่วยเหลือพร้อมกับความอ่อนน้อมถ่อมตนและให้เกียรติทุก ๆ คน ผู้ที่เกี่ยวข้องก็จะทั้งรักทั้งซาบซึ้งมาก
ปิยวาจาจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ คือ ต้องสื่อสารกันให้เข้าใจ แล้วให้เกียรติคนทุกคน เราก็จะเป็นคนที่น่ารักมาก ขอย้ำว่า คนเราตัดสินกันบางครั้งอารมณ์มีน้ำหนักมากกว่าเหตุผล คือ เวลาคนเราจะสรุปว่ารักหรือไม่รักใครคนหนึ่ง ไม่ใช่ว่าเอาทุก ๆ อย่างที่คน ๆ นั้นทำมาให้คะแนน แล้วมาบวกกันแบบคะแนนสอบ แล้วก็ตัดสินให้เกรด คนทั่วไปไม่ได้ทำอย่างนั้น คนนี้อาจจะดีมา 90 อย่าง แต่มาทำสักเรื่องสองเรื่องที่ไม่ถูกใจจริง ๆ เข้า พลิกกลับ เป็นเกลียดเลยก็มี
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น